เมื่อไม่นานมานี้ เมืองชิงต่าว มณฑลซานตง ได้เปิดตัวรถไฟใต้ดิน CETROVO 1.0 ที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ขบวนแรกของโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย CRRC Qingdao Sifang และ Qingdao Metro นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งในเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถไฟใต้ดินขบวนนี้มีน้ำหนักเบากว่ารถไฟใต้ดินแบบเดิมถึง 11% และมีความโดดเด่นที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย เช่น น้ำหนักที่เบากว่าและความสามารถในการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า

          สำหรับเทคโนโลยีการขนส่งทางราง การลดน้ำหนักยานพาหนะและการลดใช้พลังงานในการดำเนินงานไปพร้อม ๆ กับการรับประกันประสิทธิภาพของยานพาหนะ ถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการบรรลุเป้าหมายสำหรับยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ โดยรถไฟใต้ดินแบบเดิมมักผลิตจากเหล็ก อลูมิเนียมอัลลอย และวัสดุโลหะอื่น ๆ จึงเผชิญกับปัญหาในด้านของน้ำหนักของวัสดุ ดังนั้น คาร์บอนไฟเบอร์ จึงเป็นที่รู้จักในนามของ “ราชาแห่งวัสดุใหม่” ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการใช้งานและการกัดกร่อน รวมถึงข้อดีอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่น่าจับตามองคือ คาร์บอนไฟเบอร์มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 5 เท่า แต่มีน้ำหนักที่สวนทางกับคุณภาพ โดยมีน้ำหนักน้อยกว่า 1 ใน 4 ของเหล็ก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวัสดุชั้นดีสำหรับการผลิตยานพาหนะที่มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ การใช้พลังงานในการใช้งานยังลดลงถึง 7% รถไฟแต่ละขบวนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 130 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 42 ไร่ 

          รถไฟใต้ดิน CETROVO 1.0 ได้รวมเทคโนโลยี Digital Twin ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มการทำงานอัจฉริยะที่เรียกว่า “SmartCare” ระบบที่ช่วยให้รถไฟสามารถวินิจฉัยตนเองและตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยในการลดต้นทุนการบำรุงรักษา ซึ่งคาดว่าจะลดลงถึง 22% ตลอดอายุการใช้งานของรถไฟ

          การเปิดตัวรถไฟขบวนใหม่นี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากวัสดุคอมโพสิตที่เป็นโลหะมาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยให้เอาชนะข้อจำกัดของโครงสร้างแบบเดิม ๆ และมีส่วนช่วยในการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟใต้ดินของจีน ทั้งนี้ นวัตกรรมนี้ยังมีความสำคัญไม่น้อยในการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งทางรางแบบสีเขียวในเมือง

ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว

ที่มา: https://sd.dzwww.com/sdnews/202406/t20240627_14399243.htm
http://qingdao.chinadaily.com.cn/2024-06/28/c_1000222.htm