มณฑลซานตงสนองแนวคิด ประธานธิบดี สี จิ้นผิง เผยแผนลดถ่านหิน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

มณฑลซานตงสนองแนวคิด ประธานธิบดี สี จิ้นผิง เผยแผนลดถ่านหิน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 เม.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 11 เม.ย. 2566

| 17,820 view

“绿水青山就是金山银山”แนวคิดของประธานธิบดี สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งมีความหมายว่า “น้ำเขียวป่าขจีคือ ภูเขาทองภูเขาเงิน” สามารถกล่าวได้ว่า “รักษ์น้ำรักษ์ป่าคือหนทางสู่ความมั่งคั่งที่แท้จริงของชาติจีน” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนพัฒนาประเทศของจีนฉบับต่าง ๆ จะเห็นว่าในแผนฯ จะมีเป้าหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และมณฑลซานตงในฐานะที่เป็นมณฑลทางเศรษฐกิจที่สำคัญและเป็นหนึ่งในมณฑลที่ให้ความสำคัญกับปัญญาหาทางด้านสิ่งแวดล้อม จึงมีนโยบายการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานใหม่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสอดคล้องกับแนวคิดทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประธานธิบดี สี จิ้นผิง

เมื่อไม่นานมานี้ สถาบันนิเวศวิทยาของสถาบันวิทยาศาสตร์มณฑลซานตงและสภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ (NRDC) ได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวเรื่องโครงการวิจัยการควบคุมถ่านหิน “การวิจัยช่องทางการลดถ่านหินสำหรับอุตสาหกรรมการใช้ถ่านหินเป็นหลักในมณฑลซานตง ระหว่างแผน 5 ปี ฉบับที่ 14” ผ่านมุมมองของ 5 อุตสาหกรรมหลักที่ใช้ถ่านหิน ได้แก่ อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมอลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมซีเมนต์ และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาช่องทางการลดถ่านหินของอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินเป็นหลักการนำอุตสาหกรรมหลักที่ใช้ถ่านหินมาเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการลดถ่านหิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการลดถ่านหินในมณฑลฯ และยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ และคุณภาพสูงของมณฑลฯ อีกด้วย การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายของ 5 อุตสาหกรรมหลักที่ใช้ถ่านหินในมณฑลซานตง ปริมาณการใช้ถ่านหินมีสัดส่วนถึง 57% ของการใช้ถ่านหินทั้งหมดในมณฑลฯ (รวมการใช้ถ่านหินทางอ้อมที่เกิดจากการใช้พลังงานทุติยภูมิ เช่น ไฟฟ้าและความร้อน) อนึ่ง ระหว่างการดำเนินการ แผน 5 ปี ฉบับที่ 13 นั้น ปริมาณการใช้ถ่านหินทั้งหมดของของมณฑลลดลงร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีและจะยังคงดำเนินต่อไปในแผน 5 ปี ฉบับที่ 14 ภายใต้เป้าหมายคาร์บอนคู่

คำแนะนำจากแผน 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่จะช่วยลดถ่านหินในมณฑลฯ อาทิ
(1) การสร้างระบบนโยบายการลดถ่านหินตามหลักวิทยาศาสตร์และมีความสมเหตุสมผล เชื่อมโยงกับนโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับรัฐในการควบคุมปริมาณการใช้ถ่านหินทั้งหมด

(2) วางแผนภาพรวมและส่งเสริมการลดถ่านหินอย่างเป็นระบบ
(3) การจัดสรรทรัพยากรให้แตกต่างกัน ประเมินผลผลิตและการใช้พลังงานของหน่วยงานในมณฑลฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างกลไกสนับสนุนและควบคุม
(4) การเสริมสร้างบทบาทการเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินเป็นหลัก มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่ทันสมัย

สำหรับแผน 5 ปี ฉบับที่ 14 นั้น คาดการณ์ว่า 5 อุตสาหกรรมหลักที่ใช้ถ่านหิน จะมีศักยภาพในการช่วยมณฑลฯ ลดถ่านหินได้ ดังนี้ (1) อุตสาหกรรมเหล็กช่วยลดถ่านหินได้ 7.4 ล้านตัน (2) อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ลดถ่านหินได้ 3.8 ล้านตัน (3) อุตสาหกรรมอลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ช่วยลดถ่านหินได้ 24.2 ล้านตัน (4) อุตสาหกรรมปิโตรเคมีช่วยลดถ่านหินได้ 2.55 ล้านตัน และ (5) อุตสาหกรรมเคมีช่วยลดถ่านหินได้ 6.5 ล้านตัน 

นโยบายเหล่านี้มีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม และจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการจัดทำแผนฯ และนโยบายต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องสามารถศึกษาเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และอาจมีการสร้างความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนในหัวข้อที่เกี่ยวข้องในอนาคต   


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว

แหล่งที่มา:

www.sd.dzwww.com