เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ได้เข้าพบนายจ้าว หาวจื้อ นายกเทศมนตรีเมืองชิงต่าว เพื่อกล่าวอำลาในการปฏิบัติหน้าที่ในมณฑลซานตง ณ ที่ทำการรัฐบาลเมืองชิงต่าว โดยมีนายหลี่ หู่เฉิง เลขานุการใหญ่ รัฐบาลเมืองชิงต่าว นายฟ่าน ฉีจื้อ อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศเมืองชิงต่าว และนายหวัง จื้อจวิ้น อธิบดีสำนักงานพาณิชย์เมืองชิงต่าว เข้าร่วมด้วย

นายจ้าวฯ ได้กล่าวว่า นับตั้งแต่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว เปิดดำเนินการในปี 2557 สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้มีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างชิงต่าวและประเทศไทยในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากกงสุลใหญ่ฯ เดินทางมารับหน้าที่ ได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับในทุกมิติ จึงขอขอบคุณกงสุลใหญ่ฯ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านของสถานกงสุลใหญ่ฯ และหวังว่า หลังจากกลับไปประเทศไทยแล้ว กงสุลใหญ่ฯ จะยังสนับสนุนเมืองชิงต่าวต่อไป และขอเชิญให้กลับมาเยือนเมืองชิงต่าว ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านที่สองของกงสุลใหญ่บ่อย ๆ

ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลเมืองชิงต่าว สำนักงานการต่างประเทศเมืองชิงต่าว หน่วยงานทุกภาคส่วนของเมืองชิงต่าวและเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนงานของสถานกงสุลใหญ่ฯ ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุขก็อยู่เคียงข้างกัน อีกทั้ง ยังให้ความอนุเคราะห์ภาคเอกชนของไทยในพื้นที่เป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลา 6 ปีกว่าที่ตนได้ปฏิบัติงานที่ชิงต่าว มีความรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีคำกล่าวที่ว่า หากอยู่ที่ใดมีความสุขก็จะเป็นเช่นนี้ นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันผลักดันการไปมาหาสู่ของประชาชนเพิ่มเติม โดยตนได้ประสานงานทุกภาคส่วนไว้แล้ว ในเรื่องของลอจิสติกส์ หากมีเครื่องบินบินตรงระหว่างชิงต่าว - ประเทศไทย ได้ในเร็ววันก็จะยิ่งเป็นการดี สำหรับเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยขอให้ฝ่ายจีนช่วยสนับสนุนไปท่องเที่ยวที่ไทยให้มาก ๆ ด้วย