“หมู่บ้านเถาเป่า” ในเมืองเหอเจ๋อของมณฑลซานตง สร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชนในชนบท

“หมู่บ้านเถาเป่า” ในเมืองเหอเจ๋อของมณฑลซานตง สร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชนในชนบท

วันที่นำเข้าข้อมูล 1 ธ.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 956 view

มณฑลซานตงได้มีการบันทึกสถิติเกี่ยวกับยอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในช่วงเทศกาลลดราคาสินค้ากระหน่ำในเทศกาลคนโสด (วันที่ 11 เดือน 11) ของบริษัทอาลีบาบาที่ผ่านพ้นไปพบว่า มูลค่าการขายสินค้าในวันดังกล่าวสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมชนบทชาวจีนได้อย่างมหาศาล และทำให้วัยรุ่นในเมืองต่างต้องการกลับบ้านเกิด เพื่อสร้างฐานะใหม่ แจ๊คหม่าเคยกล่าวไว้ว่า “การปฏิรูปชนบท ก็คือการเปลี่ยนแปลงสังคมในชนบท” อะไรคือสาเหตุความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ?

สำนักงานพาณิชย์เมืองชิงต่าวได้เคยรายงานว่า วิธีการเลือกหมู่บ้านเถาเป่าของบริษัทอาลีบาบานั้น จะทำการคัดเลือกจากพื้นที่ที่มีสินค้าท้องถิ่นที่โดดเด่นและได้นำสินค้านั้นไปแสดงและจำหน่ายบนเว็บไซต์สินค้าออนไลน์ โดยมีองค์ประกอบที่ต้องได้มาตรฐาน 3 ข้อ ดังนี้

1. สถานที่ตั้งอยู่ในเขตชนบท

2. มีรายได้จำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ 10 ล้านหยวน/ปี

3. มีจำนวนร้านค้าออนไลน์ในชุมชนมากกว่า 100 แห่ง หรือจำนวนร้านค้าออนไลน์มีมากกว่า 10 % ของจำนวนครัวเรือน 

ความเป็นมาของหมู่บ้านเถาเป่า มีการก่อตั้งครั้งแรก 3 แห่งเมื่อปี 2552 โดยกลุ่มบริษัท อาลีบาบา เมื่อเวลาผ่านไป 8 ปี มีจำนวนหมู่บ้านเพิ่มขึ้นมากถึง 2,151 แห่ง โดยในมณฑลซานตง มีจำนวนหมู่บ้านเถาเป่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 64 แห่งเป็น 108 แห่ง ติดอันดับ 4 ของหมู่บ้านเถาเป่าทั้งหมดของประเทศจีน โดยอันดับ 1 คือ มณฑลเจ๋อเจียง มีหมู่บ้านเถาเป่า 506 แห่ง อันดับ 2 มณฑลกว่างตง 262 แห่ง และอันดับ 3 มณฑลเจียงซู 201 แห่ง

สำหรับมณฑลซานตง มีเมืองเหอเจ๋อ ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่บุกเบิกการพัฒนาหมู่บ้านเถาเป่าในชนบทได้อย่างรวดเร็วและเจริญก้าวหน้า และยังถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดการประชุม Taobao Village Summit Forum ครั้งที่ 5 ในปีนี้ การประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 6-8 ธันวาคม 2560 นายหวังเว่ยตง รองนายกเทศมนตรีเมืองเหอเจ๋อ กล่าวว่า เมืองเหอเจ๋อเคยเป็นเมืองหนึ่งในมณฑลซานตงที่ประชากร มีฐานะความเป็นอยู่ยากลำบากที่สุด การพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซในชนบทได้ขจัดความยากลำบากของประชากรในชุมชน ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนกว่า 2.5 ล้านคน ที่อยู่ในชนบทกว่า 264 แห่ง

เมืองเหอเจ๋อ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลซานตง มีเนื้อที่ 1.22 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากรกว่า 10 ล้านคน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประมาณ 7 ล้านคน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการก่อตั้งหมู่บ้านเถาเป่าและมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซเกิดขึ้น ทำให้เมืองเหอเจ๋อกลายเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านเถาเป่าและมีจำนวนผู้ค้าออนไลน์มากมาย โดยในปี 2559 หมู่บ้านเถาเป่าในเมืองเหอเจ๋อ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 61 แห่ง และมี 6 หมู่บ้านในเมืองเหอเจ๋อได้เป็น “ตำบลเถาเป่า” ที่ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 17 เมืองของ “เมืองธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เป็นแบบอย่างของประเทศ” รวมทั้งยังเป็นสิ่งดึงดูดใจให้วัยรุ่นในเมืองกว่า 30 % อยากกลับบ้านเกิด เพื่อมาประกอบอาชีพธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบัน ผู้ทำธุรกิจส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทและเอก

หมู่บ้านเถาเป่าที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองเหอเจ๋อ ได้แก่

(1) ชุมชนติงโล๋ว ตำบลต้าจี๋ อำเภอจ้าวเซี้ยน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเถาเป่าที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 2 ของหมู่บ้านเถาเป่าในประเทศจีน และได้ชื่อว่าเป็น “ตำบลเถาเป่า” อีกด้วย โดยสินค้าที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำหรับการแสดงกว่า 3,000 ชนิด รองเท้าเต้นรำ ผ้าปักลาย อุปกรณ์ถ่ายภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ ในปี 2559 สามารถสร้างมูลค่าการผลิตกว่า 200 ล้านหยวน ทำให้ประชาชนในชุมชนกว่า 80 % มีกำลังซื้อรถยนต์ส่วนตัว

(2) ชุมชนวานจื่อจาง ในเขตติ้งเถา ซึ่งมีชื่อเสียงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้ โดยชุมชนนี้เป็นแหล่งผลิตไม้กระดานที่ใหญ่ที่สุดในจีน  ในปี 2560 มียอดจำหน่ายรวมกว่า 60 ล้านหยวน นอกจากนี้ ยังดึงดูดบริษัทโลจิสติกส์หลาย ๆ บริษัทให้เข้ามาลงทุน เพื่อช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง และยังสร้างช่องทางขนส่งให้กับชุมชนชนบท ปัจจุบัน มีร้านค้าออนไลน์ในชุมชนวานจื่อจาง กว่า 215 แห่ง และโรงงานอีก 57 แห่ง ทำให้ชุมชนนี้มียอดส่งพัสดุกว่า 100,000 ชิ้น/วัน

นอกจากนี้ เมืองเหอเจ๋อยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเถาเป่าอยู่ภายใต้สังกัดของกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย E-commerce แห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ในอำเภอยุนเฉิง มีเป้าหมายที่จะให้ความรู้และสร้างผู้ค้าออนไลน์และให้ความช่วยเหลือในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยทุกปีมีผู้สมัครเรียนถึงประมาณ 12,000 คน     

จะเห็นได้ว่า จีนเริ่มเดินหน้าเรื่องการพัฒนาเมืองในชนบทอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเมืองเล็ก ๆ หรือชนบท ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างแท้จริง รวมทั้งช่วยสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

 

ข้อมูลอ้างอิง : http://i.wshang.com/Post/Default/Index/pid/253845.html

                     http://heze.dzwww.com/news/201702/t20170217_15551686.htm

                http://city.sina.com.cn/invest/t/2017-09-05/17255367.html

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ