เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว พร้อมด้วยนางสาวชนิดา อินปา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำเมืองชิงต่าว และคณะ เยี่ยมชมคลังเก็บสินค้า บริษัท China Merchants International Container Terminal (Qingdao) Co., Ltd. ณ เขตท่าเรือปลอดภาษีเฉียนวาน เมืองชิงต่าว โดยมีนาย Li Jiashen รองผู้จัดการทั่วไป ให้การต้อนรับ

       ในโอกาสนี้ คณะได้เยี่ยมชมคลังเก็บยางพาราที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศไทย ภายในคลังเก็บสินค้ามีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐาน มีชั้นวางสินค้าและติดตั้งระบบรางเลื่อนในแต่ละชั้นเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าขึ้นลง อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อับชื้น และยังมีบริการให้เช่าคลังเก็บสินค้าซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำสินค้าเก็บไว้และชำระค่าเช่ารายเดือน โดยผู้ประกอบการจีนเห็นว่า การนำยางพารามาเก็บไว้ที่คลังแห่งนี้จะทำให้สะดวกต่อการจำหน่ายยางพาราในประเทศจีน พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมคลังสินค้า E-Commerce ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระบบ คือ 1) ผู้เช่าคลังสินค้าขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาเก็บไว้โดยยังไม่ต้องชำระภาษี และเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจึงค่อยชำระภาษีนำเข้า 2) สินค้าถูกบรรจุและส่งมาจากต่างประเทศมาเก็บไว้ที่คลังแห่งนี้ โดยผู้ประกอบการชำระทุกอย่างรวมทั้งภาษีนำเข้าล่วงหน้าแล้ว

        จากนั้น ได้เยี่ยมชมท่าเรืออัตโนมัติ ซึ่งท่าเรือชิงต่าวเป็นท่าเรืออัตโนมัติแห่งแรกในทวีปเอเชีย ท่าเรืออัตโนมัติแห่งนี้สามารถขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ได้ 44.6 ตู้/ชั่วโมง เป็นสถิติใหม่ในการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ได้มากที่สุดในเวลา 1 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังมีเรือขนสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดความยาว 400 เมตร เข้าจอดเทียบท่าเพื่อทำการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรืออัตโนมัติแห่งนี้อีกด้วย

        การเข้าเยี่ยมชมคลังเก็บสินค้าของบริษัท China Merchants International Container Terminal (Qingdao) Co., Ltd. ณ เขตท่าเรือปลอดภาษีเฉียนวาน ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ในการวางแผนการส่งเสริมการค้าระหว่างจีนกับประเทศไทยที่เข้าทางมณฑลซานตง และรับทราบข้อมูลที่จะเพิ่มช่องทางในการประกอบธุรกิจรูปแบบใหม่ ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยที่ต้องการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศจีนแต่ยังขาดช่องทางในการส่งออก ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว เห็นว่า ในอนาคตจะเห็นภาพการจัดส่งสินค้าไปวางในลักษณะที่ยังไม่มีผู้สั่งซื้อ และผู้สนใจสามารถไปขอดูและตรวจสอบสินค้าเพื่อตัดสินใจซื้อสินค้าได้ที่คลังเก็บสินค้าตามท่าเรือต่าง ๆ และรับสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการจัดส่งจากประเทศต้นทาง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยอาจนำรูปแบบนี้ไปพิจารณาวางแผนการตลาดในรูปแบบใหม่ต่อไป