ปัจจุบัน การที่ประชาชนชาวจีนมีกำลังซื้อสูงขึ้น ผนวกกับการบริการการท่องเที่ยวที่มีความทันสมัยและสะดวกรวดเร็ว เป็นปัจจัยส่งเสริมให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น ในปี 2562 การใช้จ่ายในการท่องเที่ยวขาออกของชาวจีนยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลก และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนอยู่ที่ 1.275 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในทวีปเอเชีย นอกจากนี้ ประเทศเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเลือกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเพิ่มมากถึง 158 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปีที่ผ่านมา

      ในการจัดอันดับนักท่องเที่ยวเมือง/มณฑล ที่จับจ่ายใช้สอยในการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับ นักท่องเที่ยวจากมณฑลซานตงติดอันดับ 8 (10 อันดับ ได้แก่ มณฑลกวางตุ้ง นครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง มณฑลเสฉวน มณฑลหูเป่ย มณฑลซานตง มณฑลฝูเจี้ยน และมณฑลเหลียวหนิง) โดยมีการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่ม ชอปปิง ที่พัก มัคคุเทศก์ สถานที่ท่องเที่ยว การแสดง การเดินทาง และเรือสำราญ เป็นต้น อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวชาวมณฑลซานตงใช้จ่ายในการชอปปิงเป็นหลัก ซึ่ง Ctrip Global Shopping (全球购) แพลตฟอร์มบริการชอปปิงของ Ctrip ได้จัดอันดับ 10 ประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการชอปปิงต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวมณฑลซานตง ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา สเปน เกาหลีใต้ อิตาลี และออสเตรเลีย โดยเทรนด์การท่องเที่ยวของชาวมณฑลซานตงมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่นักท่องเที่ยวจะวางแผนการเดินทางและจองทัวร์ล่วงหน้า เป็นการจองบริการด้านการท่องเที่ยว อาทิ ตั๋วเครื่องบิน/เรือ ตั๋วเข้าชม ทัวร์ท่องเที่ยวแบบ 1 วัน มัคคุเทศก์ท้องถิ่นในระหว่างวันที่เดินทางท่องเที่ยว คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 47

       ด้านเมืองชิงต่าวและเมืองเยียนไถของมณฑลซานตงขึ้นแท่น 10 อันดับเมืองม้ามืดที่มีการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวขาออกมากที่สุด กลายเป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนใหม่ของตลาดการท่องเที่ยวขาออก โดยนักท่องเที่ยวขาออกของเมืองเยียนไถขยายตัวร้อยละ 208 จัดอยู่ในอันดับที่ 6 และเมืองชิงต่าว ขยายตัวร้อยละ 193 จัดอยู่ในอันดับที่ 8 ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวชิงต่าวที่เดินทางออกนอกประเทศมากที่สุด คือ กลุ่มที่เกิดในยุค 90 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 51 กลุ่มที่เกิดในยุค 00 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 39 ส่วนกลุ่มที่เกิดในยุค 80 มีสัดส่วนร้อยละ 25 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวขาออกหลัก แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เกิดในยุค 50 มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงที่สุด เนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเกษียณอายุ มีเวลาและมีกำลังซื้อสูง โดยอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการท่องเที่ยวต่อครั้งต่อคนอยู่ที่ 6,280 หยวน ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา จำนวนขาออกต่อปีของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เกิดในยุค 50 เพิ่มขึ้นในสัดส่วนร้อยละ 45

      นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่น่าจับตา คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว มีแนวโน้มที่จะเติบโตและกลายเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเฉลี่ย 5,790 หยวน/ครั้ง/คน และส่วนใหญ่เลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม หรือประเทศที่คนจีนนิยมเดินทางไปศึกษาต่อ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษ นอกจากนี้ จากสถิติของนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มส่วนตัว มีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวในสัดส่วนร้อยละ 48 ซึ่งภายใต้การส่งเสริมนโยบายลูกคนที่สอง อาจทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวเติบโตเพิ่มขึ้น

โอกาสของผู้ประกอบการไทย

      ปัจจุบัน เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง นักท่องเที่ยวชาวจีนพร้อมจ่ายเงินให้กับความสุขและความบันเทิงต่าง ๆ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ดังนั้น หากผู้ประกอบการมีความตื่นตัว และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อกระแสการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีน การสร้างสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ ตลอดจนบริการการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม อาทิ กลุ่มคู่รัก กลุ่มเกษียณอายุ กลุ่มครอบครัว เพื่อตอบสนองกับความต้องการด้วยความยืดหยุ่นก็จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวชาวจีนทุกเพศทุกวัยนิยมใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวเที่ยวทั่วโลก โดยสั่งซื้อและชำระเงินบริการด้านการท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มต่าง ๆ การหันมาดำเนินธุรกิจออนไลน์บนแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยว ซึ่งง่ายต่อการเข้าถึงจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกควบคู่ไปกับบริการออฟไลน์ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

                                                                                                                   *********************************************************************************

                                                                                                 จัดทำโดย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ เมืองชิงต่าว