เมืองชิงต่าวมุ่งสู่การเป็นมหานครแฟชั่น เมืองแห่งการสร้างสรรค์ มหานครภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมืองแห่งนิทรรศการ การแสดงสินค้า มีนโยบายสร้างเมืองและแผนงบประมาณที่ทุ่มให้เกิดการจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากล ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ชิงต่าวจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกคุ้นเคย ด้วยเอกลักษณ์ของเมืองที่มีบรรยากาศและสิ่งปลูกสร้างสไตล์ยุโรป

มหานครแฟชั่น

      ปัจจุบัน รัฐบาลชิงต่าวกำลังผลักดันให้เมืองชิงต่าวเป็นเมืองแฟชั่นในระดับนานาชาติ โดยวางเป้าหมายให้เป็นมหานครแฟชั่นต่อจากนิวยอร์ก มิลาน ลอนดอน ปารีส ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ที่ผ่านมา เมืองชิงต่าวเป็นเมืองที่กล่าวได้ว่า “เป็นที่แรก” ของหลายสิ่งในจีน ไม่ว่าจะเป็น ยานยนตร์ ไฮเวย์ สโมสรเรือยอร์ช หัวรถจักรหรือน้ำแร่บรรจุขวด ทั้งนี้ สิ่งก่อสร้างในเมืองยังเป็นที่รวมของสถาปัตยกรรมจากกว่า 20 ประเทศ อาทิ เยอรมนี สเปน อังกฤษ ญี่ปุ่นและรัสเซีย เป็นต้น

เมืองแห่งการสร้างสรรค์

      เมืองชิงต่าวมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ของเมืองในด้านภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะสร้างสรรค์ ศิลปะและการท่องเที่ยว เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ชิงต่าวได้รับคัดเลือกจากยูเนสโกให้เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ ในฐานะที่เป็นเมืองภาพยนตร์ลำดับที่ 9 ในโลกและเป็นแห่งแรกในจีน ในอดีต ชิงต่าวเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์แห่งแรก ที่ดำเนินการโดยประเทศจีน และเป็นเมืองแรก ๆ ที่ฉายภาพยนตร์ Sing-song Girl Red Peony ภาพยนตร์บันทึกเสียงเรื่องแรกของจีนก็เปิดฉายที่เมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองชิงต่าวยังเป็นบ้านเกิดของดาราที่มีชื่อเสียงหลายคน

      ในเดือนเมษายน 2561 มหานครภาพยนตร์ชิงต่าว (Qingdao Oriental Movie Metropolis) ถูกจัดเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเงินลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.25 แสนล้านบาท) มีแพลตฟอร์มเสียงที่ทันสมัยที่สุด 52 แห่ง รวมทั้งสตูดิโอเสียงใต้น้ำอีก 1 แห่ง มหานครภาพยนตร์แห่งนี้ มีถนนสายภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปและเซี่ยงไฮ้ มีศูนย์การค้า สวนสนุก โรงแรมหรูหลายแห่ง สโมสรเรือยอร์ช โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ ภาพยนตร์ 2 เรื่องใหญ่แห่งปี คือ เรื่องปฏิบัติการฝ่าสุริยะ (The Wandering Earth ) และเรื่อง Crazy Alien ล้วนถ่ายทำที่มหานครภาพยนตร์แห่งนี้

     เมืองชิงต่าวมีเป้าหมายให้ในปี 2565 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์เติบโตโดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 20 ต่อปี คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของ GDP ทั้งเมือง มีบริษัทด้านโทรทัศน์และภาพยนตร์ประมาณ 500 บริษัท พิพิธภัณฑ์ 100 แห่ง และกิจกรรมระดับชาติด้านแฟชั่นและวัฒนธรรมอย่างน้อย 5 กิจกรรม

เมืองแห่งการท่องเที่ยว

       เมืองชิงต่าวมีชื่อเสียงในด้านเป็นสถานที่ถ่ายภาพก่อนแต่งงาน เป็นที่พักผ่อนและเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป เมืองชิงต่าวคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนและต่างประเทศทั่วโลก ได้ประมาณ 140 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 3 แสนล้านหยวน

เมืองแห่งกีฬา

      รัฐบาลเมืองชิงต่าวเตรียมทุ่มงบประมาณลงทุนด้านแฟชั่นทางกีฬาและการแข่งขันกีฬาระดับสากล ตั้งแต่ชิงต่าวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรือใบในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา ความนิยมด้านกีฬาทางทะเลก็เริ่มเฟื่องฟูขึ้น ภายใน 10 ปีที่ผ่านมานี้ ชิงต่าวเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬาเรือใบที่สำคัญของเอเชียหลายรายการ อาทิ the Volvo Ocean Race ,  the Extreme Sailing Series , the Sailing World Cup และ the Clipper Round the World Yacht Race

เป้าหมายด้านอุตสาหกรรมการกีฬา

       คาดว่าปี พ.ศ. 2565 ผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยรวมของอุตสาหกรรมกีฬาจะสูงถึง 7.5 หมื่นล้านหยวน โดยมีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 1.85 ของ GDP ทั้งเมือง

       สำหรับจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรมทางกีฬา ประมาณการว่าจะมีมากกว่า 3 ล้านคน โดยวางแผนที่จะจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ จัดการแข่งขันเรือใบระดับไฮเอนด์ มุ่งเน้นสร้างรายการแข่งขันกีฬาที่มีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ พร้อมทั้งสร้างฐานอุตสาหกรรมกีฬาระดับชาติหรือระดับมณฑล 3 -5 ฐาน

เมืองแห่งนิทรรศการ

        หลายปีมานี้ งานมหกรรมเบียร์นานาชาติ การประชุม Boao Forum for Asia งานแสดงสินค้าประมงและอาหารทะเลของประเทศจีน (The China Fisheries and Seafood Expo) ล้วนเป็นงานที่มีอิทธิพลต่อเมืองชิงต่าวเป็นอย่างสูง นอกจากจะผลักดันให้เมืองชิงต่าวเป็นมหานครแห่งแฟชั่นแล้ว รัฐบาลเมืองชิงต่าวยังมีแผนที่จะผลักดันให้เป็นเมืองแห่งการจัดประชุมและแสดงสินค้าในเอเชียตะวันออก

       เมืองชิงต่าวตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2565 เมืองชิงต่าวจะจัดงานนิทรรศการ การประชุมและงานเทศกาลต่าง ๆ กว่า 400 ครั้ง สร้างนิทรรศการที่โดดเด่นของชิงต่าว 10 นิทรรศการ และจัดงานมหกรรมแสดงสินค้าขนาดใหญ่ 10 งาน โดยครอบคลุมพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร ตามนโยบาย “คู่10” กล่าวคือ 10 นิทรรศการ 10 หมื่นตารางเมตร หรือ1 แสนตารางเมตรนั่นเอง

 ******************************************************************************************

จัดทำโดย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ เมืองชิงต่าว