เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว รับเชิญไปในงานเลี้ยงส่งเนื่องในโอกาสสิ้นสุดในการปฏิบัติหน้าที่ในมณฑลซานตง ซึ่งจัดโดยทางการเมืองชิงต่าว โดยมีนายเกิ่ง เทา รองนายกเทศมนตรี เมืองชิงต่าว เป็นประธาน พร้อมด้วย นายฟ่าน ฉีจื้อ อธิบดีสำนักงาน การต่างประเทศ เมืองชิงต่าว พร้อมด้วยรองอธิบดีฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศเมืองชิงต่าว ณ โรงแรมแชงกรี-ล่า เมืองชิงต่าว โดยมีเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เข้าร่วมด้วย

          นายเกิ่งฯ ได้กล่าวชื่นชมกงสุลใหญ่ฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 6 ปีกว่า ทำให้เมืองชิงต่าวและประเทศไทยมีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และอื่น ๆ รวมทั้ง เป็นผู้ริเริ่มผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ อาทิ ความร่วมมือทางด้านการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยชิงต่าวและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หอการค้าเชียงใหม่กับหอการค้าชิงต่าว เป็นการยกระดับความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องของชิงต่าว-เชียงใหม่ และขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับเมืองชิงต่าว เข้าร่วมกิจกรรมที่สำคัญของเมืองฯ โดยตลอด รวมถึง ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญประจำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเมืองชิงต่าวให้เป็นเมืองนานาชาติ ซึ่งได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อเมืองชิงต่าว นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ยังช่วยประชาสัมพันธ์เมืองชิงต่าวให้ชาวไทยได้รู้จักและเข้าใจมากขึ้น โดยเผยแพร่ผ่านคลิปวิดีทัศน์มากมาย ในโอกาสนี้ ทางการชิงต่าว ได้เตรียมของขวัญพิเศษให้แก่กงสุลใหญ่ฯ ด้วยการเปิดคลิปวีดิทัศน์ภาพกิจกรรมสำคัญที่กงสุลใหญ่ฯ เข้าร่วมในเมืองชิงต่าว ตลอดวาระการประจำการฯ พร้อมจัดทำเป็นอัลบั้มภารกิจอีกด้วย ทั้งนี้ ขอให้คิดว่าชิงต่าวเป็นบ้านหลังที่สอง นอกจากนี้ นายเกิ่งฯ ยังได้กล่าวชื่นชมการทำงานของกงสุลใหญ่ในฐานะนักการทูตที่มีรูปแบบใหม่ กล่าวได้ว่า เป็นต้นแบบนวัตกรรมการดำเนินการทางการทูต ซึ่งยังไม่เคยมีผู้ใดดำเนินการมาก่อน เช่น แต่งชุดนักเรียนและจีนโบราณประชาสัมพันธ์สินค้าทุเรียนและผลไม้ไทย ให้เป็นที่รู้จักในมณฑลซานตงมากขึ้น รวมทั้ง จัดทำคลิปรู้เขารู้เรา แนะนำชาวไทยให้รู้จักชิงต่าวมากขึ้น

          กงสุลใหญ่ฯ ได้ขอบคุณทางการชิงต่าวที่ให้การสนับสนุนตนและสถานกงสุลใหญ่ฯ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานการต่างประเทศเมืองชิงต่าว ซึ่งให้ความอนุเคราะห์มาโดยตลอด ชิงต่าวเป็นเมืองที่มีความสวยงาม ตลอด 6 ปีกว่าที่ได้อยู่เมืองนี้ เห็นได้ชัดว่าเมืองชิงต่าวมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตนกลับถึงประเทศไทยจะคิดถึงเมืองชิงต่าว ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของตนอย่างแน่นอน และพร้อมสนับสนุนทุกประการที่ทำได้

          บรรยากาศภายในงานเลี้ยงอำลา เต็มไปด้วยความชื่นมื่น แสดงถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่ทางการเมืองชิงต่าวมีให้กับกงสุลใหญ่ฯ