บทเรียนธุรกิจบริการส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันจากชิงต่าว

บทเรียนธุรกิจบริการส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันจากชิงต่าว

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 พ.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 485 view

เมนูของว่างท้องถิ่นในเมืองชิงต่าว มีทั้งที่ต้องทานแบบร้อน และแบบเย็น วิธีในการจำหน่ายอาหารแบบจัดส่งถึงบ้าน โดยยังคงสภาพเสมือนลูกค้าเดินเข้ามารับประทานอาหารในร้านค้าเอง จึงกลายเป็นปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารจะต้องนำมาขบคิด เพื่อหาวิธีการในการรักษาสภาพอาหารระหว่างการขนส่ง หากเมื่อสามารถจับทิศทางของการบริการส่งอาหารได้แล้ว จะสามารถช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงเพิ่มยอดขายได้โดยง่าย

แพลตฟอร์มบริการส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Ele.me (เอ้อเลอเมอ แปลว่า หิวหรือยัง) เผยข้อมูล เมนูของว่างยอดนิยม 3 ชนิดแรกของชาวชิงต่าวในช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2561 ได้แก่ แป้งทอด(油酥火烧)  ยำเส้นก๋วยเตี๋ยว (凉皮) และแป้งทอดสอดไส้เนื้อลา(驴肉火烧) ซึ่งเป็นเมนูของว่างท้องถิ่นที่มียอดการสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มมากที่สุด

ร้านอาหารเก่าแก่ในเมืองชิงต่าวต่างปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายอาหาร เพื่อเข้าสู่สังคมยุคดิจิตอลที่ประชาชนต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยในช่วงเวลา 9.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามข้อมูลจากร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานมากกว่า 30 ปีแห่งหนึ่งในเขตเมืองชิงต่าว โดยไม่ใช่ช่วงเวลาที่คนรับประทานอาหารเช้ากันมากที่สุด แต่กลับพบว่า พนักงานในร้านกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น ถึงแม้ว่าภายในร้านจะไม่มีลูกค้าเลยก็ตาม โดยเจ้าของร้านกล่าวว่า ร้านของเขาเปิดมานาน และมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว แต่ก็จำเป็นจะต้องปรับธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน โดยมีการเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มการสั่งอาหารออนไลน์ ทำให้เขาสามารถขายอาหารได้ตลอดวัน

นอกจากการปรับรูปแบบการจำหน่ายอาหารแล้ว ร้านอาหารในยุคปัจจุบันยังต้องมุ่งเน้นการให้บริการและคุณภาพของอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจในการรับประทานอาหารให้แก่ลูกค้า ดังนั้น ร้านค้าจึงต้องคำนึงถึงบรรจุภัณฑ์ในการจัดส่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มฯ ซึ่งไม่เพียงแต่การรักษาความสดใหม่และความสะอาดของอาหารไว้ หากยังต้องคำนึงถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการพนักงานผู้ส่งอาหารให้มีความเข้าใจถึงรูปลักษณ์และรสชาติอาหารของร้าน เพื่อให้มั่นใจว่า พนักงานจะสามารถส่งสินค้าถึงมือผู้รับในสภาพที่ใกล้เคียงกับการทานในร้านมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์ม “เอ้อเลอเมอ” ให้ข้อมูลว่า ยังคงมีร้านอาหารบางแห่งที่ไม่ประสบความสำเร็จในการค้าบนแพลตฟอร์มฯ ดังกล่าว เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวในถนน Chongqing South ของเมืองชิงต่าว โดยปริมาณการจำหน่ายในเดือนกันยายน 2561 มีเพียง 378 รายการ หรือเฉลี่ยเพียง 12 คำสั่งซื้อต่อวัน แต่เมื่อมาสำรวจภายในร้านอาหารกลับพบว่า มีลูกค้ามารับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตลอดวัน ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าคิวรอ  เพื่อรับประทานอาหารก็ตาม

จากการวิเคราะห์ของเจ้าของร้าน เขากล่าวว่า ลูกค้ายังคงต้องการรับประทานก๋วยเตี๋ยวแบบเสิร์ฟร้อน เพราะก๋วยเตี๋ยวชนิดนี้ หากรับประทานในขณะที่น้ำซุปยังร้อนอยู่ รสชาติจะดีที่สุด อย่างไรก็ตาม การสั่งอาหารออนไลน์มีระยะเวลาในการจัดส่ง ทำให้น้ำซุปเย็นลง ส่งผลให้รสชาติเปลี่ยนไปบ้าง จึงเป็นเหตุผลให้การค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของร้านไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร  

การเปิดร้านขึ้นบนแพลตฟอร์มฯ จะช่วยเพิ่มช่องทางดึงดูดลูกค้าให้รู้จักร้านค้าของพวกเขามากยิ่งขึ้น  โดยร้านค้าส่วนมากจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรกของการเปิดร้าน แต่ความนิยมนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เมื่อร้านอาหารเป็นที่รู้จักแล้ว ยอดขายก็จะคงที่ หรืออาจลดลง ดังนั้น การรักษาความนิยมของร้านค้า จึงเป็นปัญหาที่ร้านค้าต้องคิดหาวิธีดึงดูดใจลูกค้า

นาย Ge Jing ผู้ดูแลแพลตฟอร์ม “เอ้อเลอมา” กล่าวว่า แพลตฟอร์มฯ ได้ให้แนวทางการบริหารกับร้านอาหารท้องถิ่นทั่วประเทศที่เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มฯ ได้แก่

1.) การจัดตั้งทีม เพื่อวางแผนการดำเนินงานร้านค้า โดยการวางรูปแบบให้เหมาะสมกับสินค้าของตนเอง ทั้งด้านการค้าและการบริการ

2.) ควรสร้างข้อเสนอในการค้าและจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขาย

3.) การรักษาวัฒนธรรมทางการกินของเมือง และผลักดันให้อาหารท้องถิ่นเป็นที่รู้จัก เนื่องจากประเทศจีนมีขนาดใหญ่มาก ทำให้แต่ละเมืองต่างก็มีวัฒนธรรมการกินเป็นของตนเอง นอกจากนี้ คนจีนยังเชื่อว่า การรับประทานอาหารเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ดังนั้น คนจีนจึงให้ความสำคัญกับการเลือกสรรและการรับประทานอาหาร

ทั้งนี้ ก่อนที่จะโฆษณาร้านลงบนแพลตฟอร์ม ร้านค้าจำเป็นต้องใส่ใจกับกระบวนการผลิต ทั้งเรื่องความปลอดภัย และสุขอนามัยของอาหาร รวมถึงวิธีการในการจัดส่งและการให้บริการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารมียอดขายเพิ่มมากขึ้น และคงความนิยมอย่างต่อเนื่อง

การให้บริการส่งอาหาร เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจที่จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล และเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่จะได้รับประโยชน์ ไม่เพียงแค่ธุรกิจร้านค้ากับผู้บริโภค หากยังมีผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหาร พนักงานบริการส่งอาหาร รวมถึงผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เองต่างก็ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย การศึกษารูปแบบ วิธีการ และข้อผิดพลาด จะเป็นความรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจการบริการส่งอาหารในไทย ซึ่งปัจจุบันมีการบริการส่งอาหารจำนวนมาก การมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ และเตรียมพร้อมรับการแข่งขันที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต จะช่วยให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ และเป็นผู้อยู่รอดอย่างยั่งยืน

 

 

***********************

 

จัดทำโดย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ เมืองชิงต่าว