กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว พบหารือกับอธิบดีสำนักงานพาณิชย์ นครจี่หนาน วันที่ 11 ตุลาคม 2561

กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว พบหารือกับอธิบดีสำนักงานพาณิชย์ นครจี่หนาน วันที่ 11 ตุลาคม 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ต.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 560 view

           เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายซุน อี้หง อธิบดีสำนักงานพาณิชย์นครจี่หนาน โดยมี นายเจียง ตงเฟิง รองอธิบดี และนายสวี วิ่นคุน ผู้อำนวยการกองพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์นครจี่หนาน ร่วมให้การต้อนรับและหารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและวัฒนธรรม ระหว่างนครจี่หนานกับประเทศไทย
           ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและศักยภาพของนครจี่หนาน ซึ่งเป็นนครเอกของมณฑลซานตง มีพื้นที่ 8,177 ตร.กม. ประชากร 7,321,200 คน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ในหลายปีมานี้ มณฑลซานตงให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของนครจี่หนาน ส่งผลให้เศรษฐกิจของนครจี่หนานมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงครึ่งปีแรก นครจี่หนานมีมูลค่า GDP 391,660 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 7.3 อยู่ในอันดับ 3 รองจากเมืองชิงต่าวและเยียนไถ ในเดือน มกราคม – สิงหาคม 2561 นครจี่หนานมีมูลค่าการนำเข้าส่งออกรวม 51,570 ล้านหยวน และมีมูลค่านำเข้าส่งออกระหว่างไทยและนครจี่หนาน 3,080 ล้านหยวน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถบรรทุกและเครื่องจักร สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจากนครจี่หนานลงทุนในประเทศไทย อาทิ บริษัท MEIDE GROUP CO., LTD. จำหน่ายอุปกรณ์ฟิตติ้ง ท่อเหล็กอ่อน ท่อทองแดง เหล็กและเหล็กเคลือบสังกะสี มีมูลค่าการลงทุน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัท Inspur ที่เข้าไปลงทุนเกี่ยวกับ hard disk ซึ่งยังสามารถผลักดันความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งว่าพร้อมทำงานร่วมกับนครจี่หนานในการส่งเสริมและผลักดันการแลกเปลี่ยนระหว่างกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม เนื่องจากนครจี่หนานและไทยต่างก็เป็นเมืองเกษตรกรรม และไทยก็มีศักยภาพในการส่งออกยางพารา ข้าวและผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด มะม่วง เป็นต้น ทั้งนี้ ในอนาคตทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันต่อไป 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ