เมืองชิงต่าว ส่งเสริมการใช้ Big data และ Cloud Computing ผนวกเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับธุรกิจท้องถิ่น เพื่อให้ทัดเทียมกับยุทธศาสตร์นวัตกรรมระดับชาติ

เมืองชิงต่าว ส่งเสริมการใช้ Big data และ Cloud Computing ผนวกเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับธุรกิจท้องถิ่น เพื่อให้ทัดเทียมกับยุทธศาสตร์นวัตกรรมระดับชาติ

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 มี.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 1,030 view

เมืองชิงต่าว ได้เริ่มใช้เทคโนโลยีการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ Cloud Computing และระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ Big data เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เมื่อเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา สภาประชาชนเมืองชิงต่าว ประกาศนโยบายวางแผนการดำเนินการทางยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับชาติ และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสม โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน เช่น คาดการณ์จำนวนผลผลิตที่เหมาะสม รวมถึงการลดข้อผิดพลาดในสายพานการผลิต โดยตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกเติบโตสูงขึ้น 40 % ในปี 2018

ในฐานะที่เมืองชิงต่าวเป็นศูนย์กลางและผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑล มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เป็นสถานที่ตั้งของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีสถาบันอุดมศึกษาและห้องทดลองที่สำคัญระดับประเทศจำนวนมาก และยังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่เกี่ยวกับกิจการงานของภาครัฐ อุตสาหกรรมและข้อมูลทางทะเล จึงทำให้มีการริเริ่มก่อตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลขนาดใหญ่ในเมืองชิงต่าว (Qingdao Big data Exchange Center) ในปี 2560 ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่แห่งแรกในมณฑลซานตง

บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 รายในเมืองชิงต่าว ได้วางแผนก่อสร้างศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และศูนย์เทคโนโลยี Cloud Computing ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ 1) ฐานเทคโนโลยี Cloud Computing ของบริษัท China Telecom ชิงต่าว ซึ่งจะเป็นฐานขนาดใหญ่ 3 อันดับแรกของประเทศ 2) ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัท China mobile ชิงต่าว ซึ่งจะเป็นฐานขนาดใหญ่ที่สุดในแถบภาคเหนือของจีน 3) ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัท China Unicom ชิงต่าว ซึ่งจะเป็นฐานที่มีมาตรฐานสูงที่สุดและขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งยังมีบริษัทไอทีรายใหญ่ของจีน เช่น Alibaba Baidu และ Tencent รวมถึงสถาบันการวิจัยชื่อดังของมหาวิทยาลัย Tsinghua จากกรุงปักกิ่งและมหาวิทยาลัย Fudan จากนครเซี่ยงไฮ้ ก็ได้ก่อตั้งฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในเมืองชิงต่าว เพื่อดำเนินการความร่วมมือด้านเทคนิคและการบ่มเพาะวิสาหกิจ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองชิงต่าวได้นำเทคโนโลยี Cloud Computing และการบริหารจัดการวิเคราะห์ Big data มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตในท้องถิ่น ส่งผลให้อุตสาหกรรมของเมืองชิงต่าวพัฒนาขึ้น และะมีบริษัทซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพเกิดขึ้นมากมาย โดยในปี 2560 บริษัท Qingdao Zhuosiyue Information Technology (青岛卓思越信息技术有限公司) เดิมเคยเป็นผู้จัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ในมณฑลซานตง ได้ริเริ่มร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน Huawei เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการให้บริการด้าน IT จึงส่งผลให้บริษัท Zhuosiyue ปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล และกลายเป็นผู้นำการให้บริการด้าน Cloud computing รายใหญ่ ในมณฑลซานตง

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท Hisense มีแผนที่จะก่อตั้งระบบข้อมูลชาญฉลาด Big data เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการบริหาร การปกครอง รวมถึงการจัดการสาธารณูปโภค ทั้งยังช่วยดูแลด้านการจราจร การขนส่งสินค้า การแพทย์ ระบบไฟฟ้า และความปลอดภัยสาธารณะ ให้แก่เมืองชิงต่าว โดยผู้อยู่อาศัยจะสามารถเข้าถึงข้อมูล ทรัพยากร และบริการผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท

จะเห็นได้ว่า การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และทรัพยากรไอทีในการบริหารจัดการเมืองของรัฐบาล  นอกจากจะทำให้การทำงานของภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะช่วยคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น  เพื่อการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมพัฒนาได้อย่างตรงจุด ยังนำมาซึ่งความสะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยในเมืองชิงต่าว ทั้งด้านสาธารณูปโภค สาธารณสุขและส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้เมืองพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว  พร้อมทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรเมืองชิงต่าวอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

Big Data คือ เป็นเทคโนโลยีที่เก็บรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ไว้ในที่หนึ่ง และจะใช้เทคโนโลยีการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ Cloud Computing ในการจัดเก็บ แยกแยะ และวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเกินขอบเขตหรือขีดจำกัดของการจัดการข้อมูลแบบเดิม

 

*************************************

 

แหล่งที่มา  : หนังสือพิมพ์ China Daily ฉบับวันที่ 8 มีนาคม 2561