เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ร่วมกล่าวเปิดงาน The 20^th International Fruit / Vegetable / Food Exposition จัดโดยรัฐบาลมณฑลซานตงและกระทรวงพาณิชย์จีน ณ ศูนย์จัดแสดงนิทรรศการนานาชาติ เมืองเยียนไถ ตามคำเชิญของคณะกรรมการการจัดงานนิทรรศการ โดยมีนายต่ง รุ่ย เลขานุการรัฐบาลเมืองเยียนไถ เป็นผู้ดำเนินพิธี และมีนายหวัง จง รองนายกเทศมนตรีเมืองเยียนไถ นางเจียง ฟาน ผู้ตรวจการระดับ 1 กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายซุน ก่านหมิ่น general accountant สำนักงานพาณิชย์มณฑลซานตง นายฮั้ว เจี้ยนกั๋ว รองประธานสถาบันการวิจัยว่าด้วยองค์การการค้าโลกของประเทศจีน นายสวี เสียวหู่ รองประธานสมาคมนำเข้า-ส่งออกอาหาร สินค้าท้องถิ่นและสินค้าปศุสัตว์แห่งชาติจีน นายเฉิน หมิงจวิน รองประธานสมาคมตลาดค้าผักแห่งชาติจีน และแขกเกียรติยศจากจีนและต่างชาติเข้าร่วม

        ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้ขึ้นกล่าวเปิดงาน โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ไทย - จีน มีความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมาอย่างยาวนาน ภายหลังความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2548 เป็นการขยายโอกาสให้ผู้ส่งออกและนำเข้าผักและผลไม้ของทั้งสองประเทศ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มปริมาณการนำเข้าและส่งออกผักผลไม้สดระหว่างกัน ซึ่งนอกจากผักและผลไม้ที่ผลิตในขั้นปฐมภูมิแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันส่งเสริมการค้าขายสินค้าผักและผลไม้แปรรูปขั้นทุติยภูมิให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โดยที่เกษตรกรเป็นผู้สร้างพลังชีวิต เพราะเป็นผู้เพาะปลูกอาหารให้เราบริโภค ทำให้เราสามารถขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ ไปสู่เป้าหมาย จึงควรร่วมมือกันสนับสนุนเกษตรกรที่จะผลิตผักและผลไม้ที่ไม่เป็นพิษและเป็นภัยต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้ฝากให้ผู้เข้าร่วมงานแวะชมและซื้อสบู่ที่ผลิตจากสินค้าเกษตรของไทยที่เข้าร่วมออกคูหาด้วย

        งานดังกล่าวจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2542 เป็นงานแสดงสินค้าอาหาร ผักและผลไม้ระดับประเทศที่มีกำหนดจัดขึ้นทุกปี ณ เมืองเยียนไถ การจัดงานใน 19 ครั้ง ที่ผ่านมา ทำให้งานแสดงสินค้าผักและผลไม้กลายเป็นเวทีแสดงเสน่ห์ของเมืองเยียนไถ และเวทีแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยในปี 2562 กำหนดจัดภายใต้แนวคิด “ Green Health Future” มีผู้ประกอบการ 600 ราย จากจีนและต่างประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี ศรีลังกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทยเข้าร่วม โดยจัดแสดงสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ในการเพาะพันธุ์และการผลิต อุปกรณ์และเครื่องจักรทางการเกษตรห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตร เป็นต้น