เมื่อวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2564 นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว เดินทางไปสำรวจศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้าและการพัฒนาเมือง ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดระดับความรุนแรง ณ เมืองหลินอี๋ มณฑลซานตง

    ปัจจุบัน เมืองหลินอี๋มีประชากร 10,667,100 คน มากที่สุดในมณฑลซานตง ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งโลจิสติกส์ของประเทศจีน เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของเมืองที่ทางทิศใต้ติดกับมณฑลเจียงซูและติดกับทะเลเหลือง เป็นแหล่งกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของจีน และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน รองจากตลาดค้าส่งเมืองอีอู มณฑลเจ้อเจียง

    Linyi mall เริ่มก่อตั้งในปี 2524 เป็นการรวมกลุ่มของตลาดค้าส่งสินค้าจำเพาะมากกว่า 100 แห่ง อาทิ ตลาดค้ายานยนต์ไฟฟ้า ตลาดค้าหลอดไฟ ตลาดค้าเครื่องใช้ในสำนักงาน ตลาดค้าอะไหล่รถยนต์ ตลาดค้าเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ครอบคลุมสินค้ากว่า 60,000 ยี่ห้อ รวมถึงสินค้าขนาดเล็ก

    ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าพบผู้ประกอบการที่ทำการค้าในตลาดค้าส่ง Huadong Motorbike & electric vehicle Market (华东自行车电动车市场) และตลาดอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เมืองหลินอี๋ (临沂汽摩配城) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Linyi Mall จัดจำหน่ายสินค้ายานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ เช่น รถจักรยาน ยนต์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าขนาด 2-4 ที่นั่ง ที่สามารถใช้ไฟฟ้าครัวเรือนชาร์จเพียงใช้เวลา 12 ชั่วโมง และสามารถเดินทางได้ประมาณ 60-80 กม.

    ต่อมา ได้เยี่ยมชมตลาดสินค้านำเข้า (Linyi Import Commodity City) ภายในมีสินค้าจากทั่วโลกจำหน่าย อาทิ เครื่องครัว ของใช้ อาหารและขนม เครื่องสำอาง จากประเทศในกลุ่ม SCO Belt and Road และประเทศเพื่อนบ้านของจีน เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

    จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ ทำให้ทราบว่า หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดระดับความรุนแรงลง เมืองหลินอี๋ได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันสถานการณ์ของตลาดค้าส่งได้กลับมาคึกคักเช่นเดิม จะเห็นได้จากท้องถนนเต็มไปด้วยรถบรรทุกขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ สัญจรไปมาอย่างไม่ขาดสาย สมกับเป็นเมืองแห่งโลจิสติกส์ สถานกงสุลใหญ่ฯ เล็งเห็นว่า เมืองหลินอี๋เป็นอีกเมืองหนึ่งในมณฑลซานตงที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยที่กำลังหาโอกาสนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายที่ประเทศไทย