เมื่อวันที่ ‎21 มีนาคม 2567‎ นายเช่า คุน ผู้อำนวยการศูนย์การสื่อสารระหว่างประเทศ สำนักข่าว Xinhua ประจำมณฑลซานตง และคณะ สัมภาษณ์นายศฐา อารยะกุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว เกี่ยวกับนโยบายและแผนการดำเนินงานของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ในหัวข้อ "ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างไทย-จีน"

            กงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับมอบหมายให้มาประจำการ ณ มณฑลซานตง โดยมารับหน้าที่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ได้ประจำการในสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ได้เปิดทำการครบรอบ 10 ปี ในปีนี้ (2567) ซึ่งในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทย-จีน อยู่ในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจสูง มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ รวมทั้ง มีการเชื่อมโยงระดับประชาชน

            ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ส่งเสริมความร่วมมือกับเมืองชิงต่าว และเมืองต่าง ๆ ในมณฑลซานตงในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจและการศึกษา และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดประชุมทีมประเทศไทย เพื่อร่วมกันผลักดันศักยภาพของมณฑลซานตงที่ยังไม่ได้รับการปลดล็อค อาทิ ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนด้านศิลปะและวัฒนธรรม ระหว่างไทย-ซานตง ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับความร่วมมือและรับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี

            ต่อคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของเมืองชิงต่าวด้านการท่องเที่ยว กงสุลใหญ่ฯ ให้ความเห็นว่า เมืองชิงต่าวเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้ง ผู้คนที่เป็นมิตร ซึ่งจะต้องมาเห็นด้วยตาตนเอง จึงจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ หากมีการประชาสัมพันธ์เมืองชิงต่าวให้เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยมากขึ้น ก็คาดว่า จะมีจำนวนชาวไทยมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

           ท้ายที่สุด กงสุลใหญ่ฯ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการยกเว้นการตรวจลงตราไทย-จีน ว่า มณฑลซานตง เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ หลังความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างไทย-จีน มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 จะทำให้ประชาชนไทย-จีน มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มพูนความร่วมมือด้านต่าง ๆ ต่อไป