“ชิงเตี้ยนทัว 1” เรือพลังไฮโดรเจน–ไฟฟ้าแห่งชาติ ลำแรกของจีนเทียบท่าในท่าเรือชิงต่าว

“ชิงเตี้ยนทัว 1” เรือพลังไฮโดรเจน–ไฟฟ้าแห่งชาติ ลำแรกของจีนเทียบท่าในท่าเรือชิงต่าว

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 ก.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 3 ก.ค. 2568

| 22 view

เรือชิงเตี้ยนทัว

ภาพเรือชิงเตี้ยนทัว จากสำนักข่าวป้านต่าว

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ท่าเรือชิงต่าว มณฑลซานตง เฉลิมฉลองการเปิดตัว "ชิงเตี้ยนทัว 1 (山东氢电拖1)" เรือพลังงานลูกผสมระบบไฮโดรเจน-แบตเตอรี่ลิเทียม ที่ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในประเทศจีน

เรือลำนี้ติดตั้งระบบ "เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน + แบตเตอรี่ลิเทียมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว" ที่สามารถรองรับการเดินเรือต่อเนื่องกว่า 12 ชั่วโมง ด้วยความเร็วประจำ 9 นอต พร้อมแรงลากจูงสูงถึง 82 ตัน และยังได้รับตราสัญลักษณ์ AUT-0 (ระบบชาร์จอัจฉริยะอัตโนมัติ) จากหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลจากสำนักงานรัฐบาลจีนระบุว่า การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Carbon Emission) ขณะใช้งาน สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1,500 ตันต่อปีเมื่อเทียบกับเรือแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังลดมลภาวะทางเสียง มีประสิทธิภาพทางด้านเครื่องยนต์ และอายุการใช้งานที่สูงขึ้น ซึ่งเหนือกว่าเรือขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงทั่วไปอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ เรือยังติดตั้งระบบนำทางด้วย "ดาวเทียมเป่ยโต่ว(北斗卫星)" และระบบชาร์จพลังงานริมฝั่ง อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยให้สามารถปฏิบัติงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด

นโยบายเชิงยุทธศาสตร์: ผลักดันภาคการขนส่งเพื่อความยั่งยืน

การเปิดตัว "ชิงเตี้ยนทัว 1" ถือเป็นความพยายามของจีนที่สอดคล้องกับเป้าหมาย "โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว" โดยเฉพาะในท่าเรือ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าทางน้ำระดับโลก ท่าเรือชิงต่าวได้เริ่มนำร่องทดสอบรถรอกไฮโดรเจนจำนวน 10 คัน พร้อมทั้งติดตั้งระบบผลิตพลังงานร่วม (heat-power cogeneration) ขนาด 300 กิโลวัตต์ เพื่อส่งเสริมโครงข่ายพลังงานไฮโดรเจนครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณท่าเรือล่าสุด ท่าเรือยังประสบความสำเร็จในการให้บริการเสริมไบโอดีเซลแก่เรือที่เข้าเทียบท่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนารูปแบบแหล่งพลังงานที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

เปรียบเทียบกับ "ชิงกั่งทัว 1" เรือระบบไฮบริด (2565)

จีนเคยเปิดตัวเรือไฮบริดชื่อ "ชิงกั่งทัว 1(青港拖1)" เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นระบบไฮบริดแบบน้ำมัน–ไฟฟ้า ตัวเรือมีความยาว 39 เมตร และมีกำลังขับเคลื่อน 5,200 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมขนาด 2,760 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง โดยสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 700 ตันต่อปี และช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 227 ตันต่อปี

เมื่อเปรียบเทียบกับ "ชิงเตี้ยนทัว 1" ซึ่งเป็นระบบไฮโดรเจนเต็มรูปแบบ จะเห็นได้ว่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นเป็น 12 ชั่วโมงจากเดิม 4.5 ชั่วโมง สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 1,500 ตันต่อปี และไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันเลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาครั้งสำคัญของพลังงานสะอาดในภาคท่าเรืออย่างแท้จริง

บทสรุปท่าเรือสีเขียว

การเปิดตัว "ชิงเตี้ยนทัว 1" แสดงให้เห็นว่าจีนเดินหน้าผลักดันภาคการขนส่งทางน้ำให้เป็นกลางทางคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon-neutral) อย่างจริงจัง จากโมเดลแรก "น้ำมัน–ไฟฟ้า" มาสู่ "ไฮโดรเจน–ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ" ถือเป็นเทคโนโลยีที่ปูทางสู่ยุคของพลังงานสีเขียวในภาคท่าเรือ ซึ่งไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบการเดินเรือแบบเดิม แต่ยังเป็นสัญญาณชัดเจนว่าจีนตั้งใจจะเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของโลกในอนาคต

หมายเหตุ: จากการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ในเบื้องต้น ยังไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของห้องวิจัยในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว

อ้างอิง

  1. https://www.news.cn/politics/20250627/e42f26d8acac46f58ad6e66ba11ea5b6/c.html
  2. https://finance.sina.com.cn/roll/2025-06-26/doc-infcktkh7080965.shtml
  3. https://vhsagj.smartapps.baidu.com/pages/lemma/lemma?lemmaTitle=%E2%80%9C%E6%B0%A2%E7%94%B5%E6%8B%961%E2%80%9D%E8%BD%AE&lemmaId=65818982&from=bottomBarShare&_swebfr=1&_swebFromHost=baiduboxapp
  4. https://mbd.baidu.com/newspage/data/landingsuper?rs=2566091175&ruk=mIa-AxGL-hxZJQTjttTbPw&urlext=%7B%22cuid%22%3A%220uvVt_8Bvalk82tQjOSk80iOHf_k8vuKla20t08MSu_YaSa708vBigtsSPrpiSuP8tWmA%22%7D&isBdboxFrom=1&pageType=1&sid_for_share=&context=%7B%22nid%22%3A%22news_9433564317489772344%22,%22sourceFrom%22%3A%22other%22%7D
  5. http://gzw.shandong.gov.cn/articles/ch00049/202506/c2a5a50a-b174-44a6-839d-f679d9f4d78d.html
  6. https://m.huanqiu.com/gallery/4NIfY3Yzd2J
  7. https://www.rivieramm.com/news-content-hub/news-content-hub/china-ramps-up-electric-powered-tug-construction-83604
  8. https://www.stdaily.com/web/gdxw/2022-12/30/content_1910868.html
  9. http://m.chinanews.com/wap/detail/zwsp/cj/2025/06-26/10438627.shtml
  10. https://www.gov.cn/yaowen/tupian/202506/content_7029578.htm?utm